
เนื้อวัวจัดได้ว่าเป็นวัตถุดิบที่ใครหลายคนต่างก็หลงใหลเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าเป็นวัตถุดิบขึ้นชื่อที่ยิ่งหากเป็นวัวคุณภาพดีเท่าไหร่ยิ่งมีราคาแพงมากขึ้นเท่านั้น เนื้อวัวจึงกลายเป็นวัตถุดิบที่สามารถนำมาปรุงแต่งเป็นอาหารนานาชนิดได้อย่างเข้ากันสุดๆ ที่สำคัญความสุดยอดของเนื้อวัวมันอยู่ที่เนื้อแต่ละส่วนก็จะมีรสชาติ ความเหนียวนุ่มที่เป็นเอกลักษณ์ต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับว่าใครชอบรสชาติอร่อยแบบไหน แต่สำหรับคนรักเนื้อไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็อร่อยเหมือนกันจริงๆ
การเลือกซื้อเนื้อวัวที่ถูกต้อง
อย่างที่ได้กล่าวไปเบื้องต้นว่าจริงๆ แล้วเนื้อวัวค่อนข้างที่มีหลายส่วนสามารถทานได้ในเมนูอาหารที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นจะขอแนะนำวิธีการเลือกเนื้อวัวแบบภาพรวมพร้อมทั้งการเลือกเนื้อวัวส่วนต่างๆ ที่จะนำมาทำอาหารว่าถ้าหากเป็นประเภทนี้จะเหมาะกับการทำอาหารประเภทไหน
การเลือกซื้อเนื้อวัวเบื้องต้น
- การดูสีของเนื้อวัว – เนื้อวัวที่มีความสดจะต้องเป็นเนื้อวัวที่มีสีแดง แต่สีแดงที่ว่านี้จะต้องไม่เข้มจนคล้ำ ไม่มีรอยช้ำ รอยเขียวๆ เพราะนั่นหมายถึงเนื้อวัวที่ค้างคืนหรืออาจใกล้เน่าเต็มทีแล้ว
- การใช้นิ้วกด – เวลาที่เราเอานิ้วกดลงไปที่เนื้อวัวจะต้องเด้งกลับคืนมา ไม่ใช่พอกดลงไปแล้วก็กลายเป็นรอยกดแบบนั้นเลย หากเป็นอย่างที่ว่าแสดงว่านี่คือเนื้อวัวเก่า
- ความแน่นของเนื้อ – เนื้อวัวที่สด ใหม่ จะต้องมีความแน่นของเนื้อวัวที่เราสามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ลายบนเนื้อจะต้องมีความสวยงาม ลายเส้นไม่หยาบ เพราะนั่นหมายถึงวัวแก่ที่เนื้อจะเหนียวมากๆ
- ต้องไม่มีเม็ดสาคูขาวๆ – จริงๆ แล้วนี่เป็นการดูถึงเรื่องของความสะอาดเพราะหากว่าเนื้อชิ้นไหนมีลักษณะเป็นจุดสีขาวๆ นี่คือตัวอ่อนของพยาธิตัวตืด
- กลิ่นของเนื้อวัว – จะต้องเป็นกลิ่นสาบอ่อนๆ ของเนื้อวัว ไม่เหม็นเปรี้ยวหรือเหม็นตุ เพราะมันแสดงให้เห็นว่านี่คือเนื้อวัวที่ไม่สด
การเลือกเนื้อวัวให้เหมาะกับประเภทอาหาร
- เนื้อบริเวณคอ – จะค่อนข้างเหนียวเพราะฉะนั้นเหมาะกับการนำมาอบหรือทำสตูว์
- ซี่โครง – เป็นเนื้อติดกระดูกเหมาะกับการทอดหรือย่างแล้วค่อยๆ ทาน
- เนื้อสันหรือสะโพก – จะมีลักษณะใกล้เคียงกันเหมาะกับการทำอาหารหลากหลาย อาทิ สเต็ก ย่าง ทอด และอื่นๆ
- เนื้อบริเวณท้อง – เหมาะกับการทำเนื้อเปื่อย ทำสตูว์ หรือประเภทต้ม แกง ต่างๆ
- ส่วนขา – ค่อนข้างมีความเหนียวหลายคนเลือกนำมาทำอาหารที่ต้องใช้การเคี่ยวเป็นเวลานาน เช่น สตูว์
- เนื้อติดกระดูก – ส่วนใหญ่จะใช้เป็นส่วนผสมของน้ำซุปประเภทต่างๆ เพื่อให้เกิดความกลมกล่อม